การวิเคราะห์และแก้ปัญหา คอมพิวเตอร์
ในส่วนของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป มักพบกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่บ่อยๆ ส่วนใหญ่แล้วต้องทำการเรียกช่างเทคนิคเพื่อทำการตรวจซ่อม ซึ่งถ้าหากว่าในหน่วยงานนั้น ไม่มีช่างเทคนิค หรือบุคคลที่ทำจะการแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ จำเป็นต้องใช้บริการจากร้านซ่อมทั่วไป ซึ่งตรงนั้นจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา
เอกสารชุดนี้ เป็นการรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานคอมพิวเตอร์ และแนวทางแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่จะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานต่อไปได้ โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นการประหยัดรายจ่ายได้อีกทางหนึ่ง
การรวบรวมปัญหา จะเป็นปัญหาทั่วไปที่ไม่เจาะลึกไปถึงทางด้านเทคนิค เป็นปัญหาที่มักพบเสมอสำหรับผู้ใช้ทั่วไป (ไม่รวมถึงช่างเทคนิค) ซึ่งเมื่อพบปัญหาที่เกิดขึ้นจะต้องใช้เวลาในการตามช่างเทคนิคให้มาทำการแก้ไขให้ แม้ว่าปัญหานั้นอาจดูง่ายในส่วนของช่างเทคนิค แต่ผู้ใช้ทั่วไป มันเป็นเรื่องใหญ่เสมอ
แนวทางในการวิเคราะห์และแก้ปัญหาในเอกสารนี้ จะเป็นแนวทางเบื้องต้นสำหรับผู้ใช้ทั่วไป เป็นแนวทางที่จะสามารถทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานเป็นปกติในเบื้องต้นก่อนที่จะทำการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป
การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ในการที่จะทำการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเป็นที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องทราบถึงการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ก่อน ต้องทราบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานอย่างไร เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นก็จะสามารถที่จะวิเคราะห์ได้ว่าปัญหาเกิดขึ้นที่ส่วนใด ทำให้การกำหนดสาเหตุได้แคบลงการแก้ปัญหาก็สามารถที่จะทำได้ง่าย
ขั้นตอนการเริ่มทำงานของระบบคอมพิวเตอร์
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ การที่จะทำการแก้ไขปัญหานั้นๆ ต้องกระทำอย่างเป็นขั้นตอน โดยเรียงลำดับได้ ดังนี้
- ทำการวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดที่ส่วนใด
- ทำให้ระบบตอบสนองการทำงานให้ได้
- ทำให้เครื่องสามารถบู้ตระบบให้ได้อีกครั้ง
ส่วนมากแล้วจะมุ่งไปที่ส่วนสุดท้ายซึ่งเป็นส่วนที่มีความสำคัญน้อยที่สุด การวิเคราะห์ปัญหา
เป็นส่วนที่สำคัญที่จะทำให้เราทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและทำการแก้ไขปัญหาได้ง่ายขึ้นโดยที่อาจไม่กระทบไปถึงข้อมูลที่อยู่ภายในของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถที่จะรักษาข้อมูลเดิมไว้ได้
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เรากำลังพูดถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เคยทำงานได้ดี แต่มาถึงตอนนี้กลับทำงานไม่ได้ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย (อาจมีผู้ใช้มากกว่าหนึ่งคน)
ขั้นตอนการบู้ตเครื่องคอมพิวเตอร์
ถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราอยู่ในสภาพที่ปกติจะมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้
- ฮาร์ดแวร์ทำงาน และจัดการตามที่ระบุไว้อย่างถูกต้อง
- BIOS มีการโหลด MBR(Master Boot Record)และส่งผ่านการควบคุมไปที่ MBR
- MBR ทำการโหลด DBR(Dos Boot Record) และส่งผ่านการควบคุมไปที่ DBR
- DBR ทำการโหลดไฟล์ที่ซ่อนไว้
- ไฟล์ที่ซ่อนไว้คือ IO.SYS ทำงานและทำการอ่าน CONFIG.SYS และไฟล์ MSDOS.SYS ทำงาน
- โหลดไฟล์คำสั่ง COMMAND.COM ของผู้ใช้เครื่อง
- มีการทำงานใน AUTOEXEC.BAT
การบู้ตขั้นที่ 1 : การตรวจสอบฮาร์ดแวร์
ขั้นแรกจะมีการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ว่าทำงานและมีการตอบสนองต่อระบบอย่างถูกต้อง โดย Controller จะถามถึงฮาร์ดแวร์ว่าอยู่ที่นั่นหรือเปล่า โดยการสั่งให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน สำหรับฮาร์ดดิสก์แล้ว เครื่องจะสั่งให้ทำการเลื่อนหัวอ่าน/บันทึก ไปที่ Cylinder 0 ก่อนแล้วย้ายไปอยู่ที่ Cylinder สูงสุดแล้วกลับมายัง Cylinder 0 อีกครั้ง
การทำงานจะเป็นไปตามนี้เมื่อมีการกำหนด ค่า Configuration อย่างถูกต้อง และสายต่อต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและแน่นหนา รวมทั้งฮาร์ดแวร์ต้องทำงานอย่างถูกต้อง
กรบู้ตขั้นที่ 2 : โหลด MBR และตรวจสอบความถูกต้องของตารางพาร์ติชั่น
ถ้าการเซ็ตอัพฮาร์ดแวร์เป็นไปอย่างถูกต้อง เครื่องจะปรากฏแสงที่ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์ขึ้นมาในช่วงสั้นๆ ในขณะที่ทำการบู้ตเครื่อง ในส่วนของฮาร์ดดิสก์นั้นแสดงให้ทราบว่าระบบกำลังอ่าน MBR ซึ่งอยู่ที่ตำแหน่ง head 0, cylinder 0, sector 1 ถ้าความพยายามในการอ่านไม่ได้ผล ไดรว์จะไม่ได้รับความสนใจจากระบบ และอาจมีรายงานว่า "Drive 0 failure" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ BIOS ของระบบที่ติดตั้งอยู่ในระบบเอง
MBR ประกอบด้วยตารางพาร์ติชันซึ่งนับว่าเป็นส่วนที่สำคัญของฮาร์ดดิสก์ซึ่งจะอธิบายว่าฮาร์ดดิสก์มีการแบ่งเนื้อที่อย่างไรและโปรแกรมสั้นๆ สำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของตารางพาร์ติชันนั้นด้วย ถ้าตารางพาร์ติชันถูกต้อง มันจะใช้รายละเอียดในตารางพาร์ติชันสำหรับค้นหา และโหลด DBR จากพาร์ติชันที่ทำงาน
ในส่วนของโปรแกรมสั้นๆ ที่อยู่บน MBR มีหน้าที่ 3 ประการดังนี้
- ตรวจสอบว่าตารางพาร์ติชันนั้นถูกต้อง
- ค้นหาพาร์ติชันที่บู้ตได้ หรือทำงานบนไดรว์ได้
- โหลดเซกเตอร์แรกของพาร์ติชันนั้น ในกรณีที่เป็นพาร์ติชันของ DOS จะเรียกเซกเตอร์แรกว่า DBR(Dos Boot Record)
การบู้ตขั้นที่ 3 : ตรวจสอบ (DBR)
ถ้าไม่มีปัญหาในส่วนของ MBR ระบบจะทำการโหลดข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับเซกเตอร์ที่เรียกว่า DBR เข้าไปและทำให้ DBR ทำงานได้
ตารางพาร์ติชันจำแนกตำแหน่งของ DBR โดยการชี้ตำแหน่งดังกล่าว ระบบคอมพิวเตอร์ส่วนมากจะบรรจุ DBR ไว้ที่ตำแหน่ง cylinder 0, head 1, sector 1 เฉพาะกรณีที่ใช้ระบบปฏิบัติการตัวเดียว แต่ถ้าเป็นแบบอื่นอาจไม่เป็นดังตัวอย่าง
หน้าที่ของ DBR มี 5 ประการดังนี้
- รีเซ็ตไดรว์ที่บู้ตได้
- โหลดเซกเตอร์แรกของไดเร็คทอรีหลักเข้าไว้ในหน่วยความจำ
- ตรวจสอบ 2 entries แรกว่าเป็นชื่อของไฟล์ที่ซ่อนอยู่
- โหลดไฟล์ที่ซ่อนอยู่ลงในหน่วยความจำ
- ส่งผ่านการควบคุมไปยังไฟล์ที่ซ่อนอยู่
DBR ได้บรรจุโครงสร้างที่สำคัญของข้อมูลที่เรียกว่า BPB(The BIOS Parameter Block)
เนื่องจาก DBR เป็นเซกเตอร์แรกในพาร์ติชัน BPB จึงประกอบด้วยข้อมูลซึ่งอธิบายรายละเอียดของพาร์ติชันให้ DOS รู้
การบู้ตขั้นที่ 4 : โหลดไฟล์ที่ซ่อนอยู่
DBR จะโหลดไฟล์ที่เป็นหัวใจของระบบการทำงาน 2 ไฟล์เข้าไว้ในหน่วยความจำ ซึ่งได้แก่ไฟล์ IO.SYS และ MSDOS.SYS ระบบจะไม่บู้ตถ้าไฟล์ทั้งสองนี้ไม่ถูกต้องหรือไม่มีไฟล์ทั้งสองนี้อยู่(ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากฮาร์ดแวร์หรือซอฟท์แวร์ก็ตาม)
การบู้ตขั้นที่ 5 : ตรวจสอบคำสั่ง CONFIG.SYS
ระบบจะดำเนินการบู้ตต่อไปโดยโหลดไฟล์ที่ซ่อนอยู่ไฟล์แรก และให้มันทำงาน ซึ่งจะทำการโหลดคำสั่ง CONFIG.SYS แล้วให้มีการทำงานตามคำสั่งนี้ คำสั่งใน CONFIG.SYS ที่สำคัญคือคำสั่ง "DEVICE=" ซึ่งใช้ในการโหลดดีไวซ์ไดรเวอร์ที่จำเป็นในการเข้าสู่ไดรว์ต่างๆ ที่ติดตั้งไว้
การบู้ตขั้นที่ 6 : ระบบจะทำการโหลด COMMAND.COM
COMMAND.COM เป็น User shell หมายความว่ามันเป็นโปรแกรมที่ใช้อ่านคำสั่งของผู้ใช้เครื่อง และแปลคำสั่งนั้นไปสู่ระบบการทำงาน สำเนาของคำสั่ง COMMAND.COM ที่ไม่ถูกต้องจะทำให้ระบบไม่สามารถบู้ตได้
การบู้ตขั้นที่ 7 : Autoexec.bat ทำงาน
Command.com จะเรียกคำสั่งต่างๆ ใน Autoexec.bat ตามลำดับ ถ้าคำสั่งผิดปกติจะทำให้เสียระบบการทำงานไปด้วย
จากขั้นตอนการบู้ตเครื่องจะเห็นว่า ขั้นตอนที่ทำให้ไม่สามารถอ่านไดรว์ได้เลยคือขั้นที่ 1 และ ขั้นที่ 2 ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบฮาร์ดแวร์และ MBR ในขั้นที่ 3 DBR จะมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับ DOS เวอร์ชั่นหลังๆ และขั้นที่ 5 CONFIG.SYS มีความสำคัญสำหรับไดรว์เพิ่มเติมเช่น CD-ROM เป็นต้น
การวิเคราะห์อาการและการแก้ปัญหาเบื้องต้น
การวิเคราะห์อาการและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น จะต้องเริ่มต้นพิจารณาตั้งแต่การเริ่มต้นเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่าปัญหาเกิดขึ้นในช่วงใดของการบู้ตระบบ โดยพิจารณาทีละขั้นตอน
การตรวจสอบฮาร์ดแวร์
หลังจากเปิดสวิทช์ให้ระบบทำงาน CPU จะถูกรีเซ็ตให้ไปอ่านข้อมูลที่ BIOS เพื่อทำการตรวจสอบฮาร์ดแวร์ที่เชื่อมต่ออยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์
BIOS : Basic Input Output System จะเป็นตัวแรกที่ทำงานโดยจะเริ่มกระบวนการที่เรียกว่า POST : Power On Self Test เพื่อทำการทดสอบระบบต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ โดยจะเช็คระบบต่างๆ ว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่
ในขั้นตอนนี้จะทำการติดต่อกับหน่วยความจำ ไดรว์ คีย์บอร์ด ฮาร์ดดิสก์ จอภาพ และอุปกรณ์ในส่วนอื่นๆ ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาในขั้นตอนนี้เครื่องจะทำการเตือนด้วยข้อความที่จอภาพ(กรณีที่ติดต่อกับจอภาพได้) แต่ถ้าติดต่อกับจอภาพไม่ได้เครื่องจะแจ้งเป็นเสียงแทน
ข้อความแสดงความผิดพลาด
ข้อความ | ปัญหา |
CMOS BATTERY HAS FAIL | แบตเตอรี่แบกอัพ CMOS อ่อนกำลัง,แบตหมด |
CMOS CHECKSUM ERROR | ข้อมูลภายใน CMOS ไม่ถูกต้อง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากแบตเตอรี่ใกล้หมด หรือมีการถอดแบตเตอรี่ออก |
Disk Boot Failure, Insert System Disk and Press Enter | BIOS ไม่พบดิสก์ที่กำหนดให้ใช้สำหรับบู้ตระบบ หรือดิสก์นั้นไม่ได้ทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการใดๆ ไว้ |
FDD Controller Failure | ระบบรีเซ็ตฟลอปปี้ดิสก์ไม่ได้ อาจเนื่องจากการตั้งค่าใน BIOS ไม่ถูกต้อง, สายเคเบิลหลุดหรือหลวม, หรือคอนโทรลเลอร์เสีย |
HDD Controller Failure | ระบบรีเซ็ตฮาร์ดดิสก์ไม่ได้ อาจเนื่องจากการตั้งค่าใน BIOS ไม่ถูกต้อง, สายเคเบิลหลุดหรือหลวม, หรือคอนโทรลเลอร์เสีย |
KB/Interface Error | หัวต่อคีย์บอร์ดเสีย หรือหลุด/หลวม |
Keyboard Error | ไม่ได้ติดตั้งคีย์บอร์ดหรือคีย์บอร์ดเสีย |
System Halted(Ctrl-Alt-Del) to Reboot | เกิดข้อผิดพลาดบางประการขึ้น ซึ่งระบบจะพยายามแก้ปัญหาโดยการรีบู้ตเครื่องใหม่ |
การ POST เสียงของ BIOS
รหัสเสียงของ BIOS แต่ละยี่ห้ออาจจะแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่รหัสเสียงจะใช้สองลักษณะ คือเสียงสั้น และเสียงยาว และใช้ทั้งสองแบบรวมกัน เพื่อให้ได้ความหมายที่มากพอ
รหัสเสียง BIOS Award
เสียง | ความหมาย |
สั้น 1 ครั้ง | POST ผ่าน ทุกอย่างปกติ |
สั้น 2 ครั้ง | POST ไม่ผ่าน มีปัญหา |
ไม่มีเสียง | แหล่งจ่ายไฟ หรือเมนบอร์ดมีปัญหา |
เสียงต่อเนื่อง | แหล่งจ่ายไฟ หรือเมนบอร์ดมีปัญหา หรือหน่วยความจำ RAM มีปัญหา |
ยาว 1 สั้น 1 | เมนบอร์ดมีปัญหา |
ยาว1 สั้น 2 | การ์ดแสดงผลมีปัญหา (MDA, CGA) |
ยาว 1 สั้น 3 | การ์ดแสดงผลมีปัญหา (EGA) |
รหัสเสียง BIOS AMI
เสียง | ความหมาย |
สั้น 2 ครั้ง | POST ไม่ผ่าน มีปัญหา |
ไม่มีเสียง | แหล่งจ่ายไฟ หรือเมนบอร์ดมีปัญหา |
เสียงต่อเนื่อง | แหล่งจ่ายไฟ หรือเมนบอร์ดมีปัญหา หรือหน่วยความจำ RAM มีปัญหา |
ยาว1 สั้น 2 | การ์ดแสดงผลมีปัญหา (MDA, CGA) |
ยาว 1 สั้น 3 | การ์ดแสดงผลมีปัญหา (EGA) |
ยาว 1 ครั้ง | การทดสอบเรียบร้อย ไม่มีปัญหา |
จากตารางรหัสตัวอย่างเสียงของ BIOS ซึ่งเป็น ยี่ห้อที่นิยมใช้โดยทั่วไปในเครื่องที่เป็นแบบ Home User ส่วนยี่ห้ออื่นๆ เช่น BIOS Phoenix จะมีใช้ในเครื่องประเภทแบรนด์เนม เป็นส่วนใหญ่ ในส่วนของรหัสเสียงก็ใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ผู้ใช้ หรือผู้ดูแลระบบจะต้องใช้การสังเกตเอาเอง
********************************************************
การโหลด MBR และตรวจสอบความถูกต้องของตารางพาร์ติชัน
ขั้นตอนนี้จะกระทำต่อเนื่องจากการตรวจสอบฮาร์ดแวร์เรียบร้อยแล้ว มันจะทำการค้นหาพาร์ติชันที่บู้ตได้ของดิสก์ไดรว์ ในขั้นตอนการทำงานนี้ ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นจะมีข้อความแสดงความผิดพลาดขึ้นมาข้อความใดข้อความหนึ่งดังนี้ Invalid partition table, Error Loading Operating system หรือ Missing operating system การวิเคราะห์ให้ดูตามผังการทำงานของ MBR
โครงสร้างของ MBR
การทำงานของ DBR
หลังจากระบบทำการโหลด MBR เสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำการเรียกให้ DBR ทำงานเป็นตัวถัดไป การวิเคราะห์ปัญหาในช่วงการทำงานนี้สามารถวิเคราะห์ได้จากผังการทำงาน
โครงสร้างของ DBR
การทำงานของโปรแกรมระบบ
ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานที่เกิดขึ้นหลังจากการตรวจสอบฮาร์ดแวร์เรียบร้อยแล้ว ถ้าเป็นระบบ DOS จะมีการเรียกใช้ไฟล์ Config.sys เพื่อทำการโหลดดีไวซ์ไดรเวอร์ของอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็น หลังจากนั้นจึงทำการเรียกใช้ไฟล์ Command.com เพื่อทำการติดต่อกับผู้ใช้งาน และสุดท้ายเป็นการเรียกใช้งาน Autoexec.bat ซึ่งเป็นขั้นตอนเรียกใช้โปรแกรมที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นระบบ ต่อไป ส่วนของ Windows'95/98 นั้น จะต่างจาก DOS ตรงที่ไฟล์ Config.sys และ Autoexec.bat จะไม่ค่อยมีความสำคัญมากนัก แต่จะเป็นการเรียกใช้งาน Windows Registry ซึ่งเป็นส่วนที่เก็บการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับระบบไว้
ในขั้นตอนนี้ถ้ามีปัญหาจะพบกับข้อความต่อไปนี้
ข้อความ | ปัญหาที่เกิด |
Bad or Missing ,Command Interpreter | ไฟล์ Command.com เสีย |
Memory Allocation Error | Command.com ถูกทำลาย หรือมีโปรแกรมบางโปรแกรมพยามใช้หน่วยความจำในตำแหน่งที่สงวนไว้สำหรับ Command.com |
Cannot Load Command, System Halted | เครื่องไม่สามารถ โหลด Command.com ได้เนื่องจาก Bug ของโปรแกรม หรือรุ่นของ Command.com ไม่ตรงกัน |
Key_ | System file ของ Windows ถูกทำลาย |
Press any key to continues | ถ้าฟ้องไฟล์ XXX.Vxd จะเป็นที่การติดตั้งระบบไม่สมบูรณ์ |
จะเห็นได้ว่าปัญหาที่เกิดจากการทำงานของระบบจะเกิดได้ในทุกขั้นตอนการทำงาน โดยแต่ละส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันไปโดยลักษณะของข้อความที่ปรากฏจะเป็นตัวบอกให้เราทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดกับส่วนใดของระบบนั่นเอง
เมื่อใช้แนวทางในเบื้องต้นสำหรับการวิเคราะห์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และทราบว่าเกิดขึ้นกับส่วนใดของระบบ เราก็สามารถที่จะทำการแก้ไขได้ง่ายขึ้นเนื่องจากเราได้กำหนดปัญหาให้
แคบลง ทำให้การแก้ปัญหาทำได้เร็วขึ้นด้วย และเป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
***************************************************
แนวทางการแก้ปัญหา
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ จะเป็นตัวชี้ให้เห็นถึงตำแหน่งที่บรรจุข้อมูลสำคัญๆ ในเครื่องคอมพิวเตอร์ และแต่ละส่วนมีผลถึงกัน ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งถูกลบหรือเสียไป จะทำให้ส่วนอื่นๆ ไม่สามารถที่จะทำงานต่อไปได้ เช่นถ้าหากตารางพาร์ติชันเสียหาย เราก็จะไม่อาจเข้าสู่ระบบได้แม้ว่าส่วนที่เป็น FAT จะยังสมบูรณ์ดีอยู่
ตำแหน่งข้อมูลที่สำคัญในเครื่องคอมพิวเตอร์
ข้อมูล | ตำแหน่งที่ตั้ง | การกำหนด |
POST(Power On Self Test) | ROM BIOS | บริษัทผู้ผลิต/ผู้ใช้ |
ประเภทของฮาร์ดดิสก์ | Controller บนเมนบอร์ด | กำหนด Configuration ของฮาร์ดดิสก์ |
Partition Record(MBR) | Head 0/Cylinder 0/Sector 1 บนฮาร์ดดิสก์ | FDISK/ XFDISK |
DOS Boot Record(DBR) | Sector แรกใน Partition MBR เป็นตัวชี้ตำแหน่ง | FORMAT |
FAT(File Allocation Table) | MBR เป็นตัวชี้ตำแหน่ง | Format C: หรือ C:/S |
Root Directory | บูตเรคคอร์ดของ DOS เป็นทางอ้อม คือ DBR ชี้ตำแหน่ง FAT และกำหนดขนาดของ FAT และ Root Directory อยู่ถัดจาก FAT | Format C: หรือ Format C:/S |
IO.SYS/MSDOS.SYS | Root Directory / FAT | Format C:/S หรือ SYS C: |
CONFIG.SYS | Root Directory / FAT ใช้โดย MSDOS.SYS | ผู้ใช้เครื่อง /การติดตั้ง Device Driver ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ |
COMMAND.COM | Root Directory /FAT ตัวชี้ปัญหาคือ Bad or Missing Command Interpreter | Format C:/S หรือ SYS C: |
AUTOEXEC.BAT | Root Directory/ Sub Directory FAT | ผู้ใช้เครื่อง /การติดตั้ง Device Driver ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ |
ข้อมูลของผู้ใช้ | Root Directory/ Sub Directory FAT | ผู้ใช้เครื่อง |
จากตาราง
ทำให้เราทราบถึงตำแหน่งของข้อมูลแต่ละตัว และการกำหนดข้อมูลแต่ละชุดแล้ว การแก้ปัญหาก็สามารถทำได้ง่ายขึ้นเมื่อมีข้อความแสดงความผิดพลาดในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้นมา
การแก้ไขปัญหาช่วงตรวจสอบฮาร์ดแวร์
ข้อความ | ปัญหา/การแก้ไข |
CMOS CHECKSUM ERROR | ปัญหา การแก้ไข |
Disk Boot Failure, Insert System Disk and Press Enter | ปัญหา BIOS ไม่พบดิสก์ที่กำหนดให้ทำการบู้ตระบบ หรือดิสก์นั้นไม่ได้ทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการใดๆ ไว้ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการใส่แผ่นดิสก์ไว้ในเครื่องขับ หรืออาจเกิดจากสายต่อหลวมหรือหลุดก็เป็นได้ การแก้ไข |
FDD/ HDD Controller Failure | ปัญหา ระบบทำการรีเซ็ต Floppy disk/ Hard Disk ไม่ได้ อาจเป็นเพราะการตั้งค่าใน BIOS ไม่ถูกต้อง, คอนโทรลเลอร์เสีย, แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดจากสายเคเบิลหลุดหรือหลวม การแก้ไข |
KB/ Interface Error(Keyboard Error) | ปัญหา หัวต่อคีย์บอร์ดหลุด/หลวม การแก้ไข |
System Halted(Ctrl-Alt-Del) to Reboot | ปัญหา เกิดการผิดพลาดบางประการ ระบบจะพยายามแก้ปัญหาโดยการบู้ตระบบใหม่ |
การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการบู้ตระบบ
ปัญหา | อาการ | การแก้ไข |
Chipset ที่ควบคุม Interrupt เสีย ปัญหาเกิดที่เมนบอร์ด | นับ Memory เสร็จ แล้ว Hang ไปเฉยๆ ไม่มีข้อความใดๆ ขึ้นมา | รีบู้ตเครื่องขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ถ้ายังเป็นเหมือนเดิม ทำการตรวจเช็คที่เมนบอร์ด |
Setup ชนิดของ HDD ใน BIOS ผิด | นับ Memory เสร็จแล้วขึ้นข้อความ Drive C: Failure หรือ Drive C: Error | ตรวจเช็คชนิดของ HDD ใน BIOS ที่หัวข้อ STANDARD / PRIMARY IDE : กำหนดชนิด HDD ให้ถูกต้อง ถ้ามีหัวข้อ AUTO ให้กำหนดเป็นหัวข้อนี้ |
DOS Partition เสีย | Boot ที่ Drive A: แล้วพิมพ์ C: ไม่ขึ้นข้อความ Invalid Drive Specification |
Sys C: รอจนขึ้นข้อความ System transferred แล้วบู้ตที่ Drive C: อีกครั้ง ถ้ายังบู้ตไม่ได้
Disk Tool ใช้คำสั่ง Make Disk Bootable ทำตามขั้นตอนของโปรแกรม ถ้ายังไม่หาย
ใหม่ได้เลย |
HDD Track 0 เสีย |
Sys C: แล้วยังไม่ได้ผล
มี Bad Sector ที่ Track 0
Format C: เฉยๆ ผ่าน
Disk Manager ฟ้อง Track 0 เสีย | เลี่ยงไปบู้ตที่พาร์ติชันแทนโดยการกำหนดให้เป็นสองพาร์ติชัน แล้วกำหนดให้พาร์ติชันที่สองเป็น DOS Partition ถ้าใช้ FDISK กำหนดให้ Partition ที่สองเป็น Active |
HDD Boot Record เสีย |
Failure หรือ Hang ไปเฉยๆ
or Disk Error | บู้ตที่ Drive A: พิมพ์ Sys C: รีบู้ตอีกครั้ง ถ้าไม่หาย ใช้ Disk tool ใน Norton เลือกMake Disk Bootable |
การแก้ปัญหาที่เกิดจากโปรแกรม
ปัญหา | อาการ | การแก้ไข |
Hang ที่ Config.Sys หรือ Autoexec.bat หรือที่โปรแกรม Driver | บู้ตระบบขึ้นมาแล้วเข้าไปที่ Safe Mode หรือมีข้อความ Press any Key to Continues | บู้ตเครื่องขึ้นมาใหม่ |
ไฟล์ระบบเสีย (IO.SYS/ MSDOS.SYS) | ขึ้นข้อความ Key_ (WINDOWS'98) | บู้ตที่ Drive A: พิมพ์ Sys C: แล้วทำการบู้ตระบบขึ้นมาใหม่ในกรณีนี้ถ้าระบบบู้ตไปที่ C:\> ต้องทำการติดตั้ง(Setup)โปรแกรมระบบลงไปใหม่ |
เครื่องไม่สามารถโหลด Command.com ได้ เนื่องจาก Bug ของโปรแกรม | ขึ้นข้อความ Cannot Load Command, System Halted | เช็คดูว่าในฮาร์ดดิสก์มีไฟล์ Command.com หรือไม่ ถ้าไม่มีให้ทำการบู้ตจากไดรว์ A: แล้วใช้คำสั่ง Sys C: บู้ตใหม่อีกครั้ง ถ้าไม่ได้ผลให้ทำการตรวจเช็คที่ RAM |
ไฟล์ Command.com ในฮาร์ดดิสก์ไม่มี อาจถูกลบหรือถูกทำลายโดยไวรัสหรือสาเหตุอื่น | ขึ้นข้อความ Bad or Missing Command Interpreter | บู้ตระบบจาก Drive A: แล้วใช้คำสั่ง Sys C: แล้วบู้ตระบบขึ้นมาอีกครั้ง |
ไฟล์ Command.com ถูกทำลาย หรือมีโปรแกรมพยายามใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำที่สงวนไว้สำหรับ Command.com | ขึ้นข้อความ File Allocation Error | ทำการบู้ตระบบขึ้นมาใหม่โดยการ Reset ถ้าไม่ได้ผล บู้ตระบบจากไดรว์ A: แล้วใช้คำสั่ง Sys C: Restart เครื่อง |